02
สิงหาคม
2022
|
07:00
Europe/Amsterdam

ผลประกอบการดีต่อเนื่อง และมีความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ดีมานด์ยังคงที่ ตลอดไตรมาสสองของปี 2565

สรุป
  • ยอดขายของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 4.7 พันล้านยูโร (+18.9%)
  • EBITDA 547 ล้านยูโร (–33.0%) ซึ่งสูงกว่าที่ประมาณการไว้
  • รายได้รวมสุทธิอยู่ที่ 199 ล้านยูโร (–55.7%)
  • เงินสดจากการดำเนินงานหลังหักเงินลงทุน (FOCF) อยู่ที่ –462 ล้านยูโร
  • ปรับเปลี่ยนการประมาณการปี 2565
  • มุ่งเน้นในแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนและความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ อย่างต่อเนื่อง

โคเวสโตรยังคงประสบความสำเร็จ ในการเริ่มต้นปีงบประมาณปัจจุบันต่อเนื่องตลอดไตรมาสสองของปี 2565 โดยยอดขายของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้น ร้อยละ18.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว  อยู่ที่ 4.7 พันล้านยูโร ( จาก 4.0 พันล้านยูโรในปีที่ผ่านมา) สาเหตุสำคัญมาจากราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น EBITDA ในไตรมาสที่สอง ลดลงร้อยละ 33 มาอยู่ที่ 547 ล้านยูโร ( 817 ล้านยูโรในปีที่ผ่านมา) โดยมีปัจจัยหลักมาจากปริมาณการขายที่ลดลง  รวมถึงราคาวัตถุดิบและพลังงานที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะถูกชดเชยบางส่วนด้วยการปรับราคาขายให้สูงขึ้น เงินสดจากการดำเนินงานหลังหักเงินลงทุน (FOCF) ลดลงไปอยู่ที่ -462 ล้านยูโร (374 ล้านยูโรในปีที่ผ่านมา) สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มเงินทุนเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียน โดยเฉพาะจากผลตอบแทนผันแปรระยะสั้นสำหรับปีงบประมาณ 2564 และจาก EBITDA ที่ลดลง รายรับสุทธิในไตรมาสที่สองของปี 2565 ลดลงร้อยละ 55.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ค่อนข้างสูงเป็นพิเศษ  โดยมาอยู่ที่ 199 ล้านยูโร ( 449 ล้านยูโรในปีที่ผ่านมา)

“เราสามารถย้อนกลับไปดูภาพรวมของไตรมาสสองซึ่งมีความแข็งแกร่ง  และเรายังทำ EBITDA ได้สูงกว่าที่ประมาณการไว้เล็กน้อย นอกจากนี้ เรายังเดินหน้าไปสู่ครึ่งปีหลัง ซึ่งมีความท้าทายมากขึ้น  ซึ่งสถานการณ์ภูมิศาสตร์การเมืองตอนนี้แสดงให้เห็นว่า เราไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากการปรับเปลี่ยนภาพรวมอุตสาหกรรมไปสู่ความยั่งยืนและลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล”

ดร. มาร์คุส สไตเลอแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโคเวสโตร กล่าว “ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะก้าวไปสู่การหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ และเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศที่ยิ่งใหญ่  เราจะยืนหยัดในฐานะผู้บุกเบิกเส้นทางสู่อนาคตแห่งความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ”

ปรับเปลี่ยนการประมาณการของปี 2565

สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนนั้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ต่อสถานการณ์ทางภูศาสตร์ทางการเมือง และมีผลกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลกเป็นอย่างมาก  กลุ่มบริษัท คาดว่าจะเกิดผลกระทบต่อเนื่องกับภาคการผลิตทั้งห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ระดับราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น เกิดภาวะเงินเฟ้อ และการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะถดถอยลง

สืบเนื่องจากการที่ต้นทุนพลังงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง โคเวสโตรจึงปรับเปลี่ยนภาพรวมการดำเนินงานของปีงบประมาณปัจจุบันเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2565  โดยคาดการณ์ EBITDA ไว้ที่ระหว่าง 1.7 ถึง 2.2 พันล้านยูโร (ก่อนหน้านี้อยู่ที่ 2.0 ถึง 2.5 พันล้านยูโร) และ ROCE สูงกว่า WACC ระหว่าง – 2 ถึง 2 จุดเปอร์เซ็นต์ (ก่อนหน้านี้อยู่ที่ 1 ถึง 5 จุดเปอร์เซ็นต์) FOCF ตอนนี้คาดไว้ที่ระหว่าง 0 ถึง 500 ล้านยูโร (ก่อนหน้านี้อยู่ที่ 400  ถึง 900 ล้านยูโร) นอกจากนี้ โคเวสโตรยังคาดการณ์ว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือ  5.3  ถึง 5.8 ล้านเมตริกตัน (ก่อนหน้านี้อยู่ที่ประมาณ 5.5  ถึง 6.0 ล้านเมตริกตัน) และคาดการณ์ EBITDA สำหรับไตรมาสที่สามของปี 2565 ไว้ที่ 300  ถึง 400 ล้านยูโร

“ในไตรมาสที่สอง การฟื้นตัวหลังประเทศจีนคลายล็อกดาวน์นั้นเร็วกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ รวมถึงดีมานด์ความต้องการสินค้าที่ยังทรงตัว จึงนับเป็นผลดีกับเรา”

ดร. โทมัส เทอปเฟอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของโคเวสโตรกล่าวเสริม “ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมหภาคจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอีกครั้ง โดยเฉพาะในส่วนของต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงและความไม่แน่นอนในการจัดหาก๊าซที่โรงงานของเราในเยอรมนี”

กำลังการผลิตของโรงงานของเราในเยอรมนีคิดเป็นประมาณหนึ่งในสี่ของกำลังการผลิตทั่วโลก โคเวสโตรกำลังเร่งหามาตรการระยะสั้นต่าง ๆ มาใช้ เพื่อลดการใช้ก๊าซในเยอรมนี  เช่น ด้วยการเปลี่ยนไปใช้เครื่องผลิตไอน้ำที่ใช้น้ำมัน นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตปัจจุบันและคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อลดการใช้ก๊าซและพลังงานต่อไป กรณีที่ขาดแคลนก๊าซในอนาคต อาจส่งผลให้เครื่องจักรทำงานในสภาวะโหลดบางส่วน หรือทำให้โรงงานผลิตของโคเวสโตรแต่ละแห่งหยุดการทำงานได้  ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับการขาดแคลน และด้วยความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดระหว่างอุตสาหกรรมเคมีและภาคส่วนปลายน้ำ สถานการณ์ดังกล่าวอาจมีแนวโน้มไปสู่การล้มเหลวของห่วงโซ่อุปทานและการผลิตทั้งหมด

มุ่งเน้นที่แนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนและความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง

โคเวสโตรได้ใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อผลักดันวิสัยทัศน์ในการก้าวสู่การหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบและบรรลุเป้าหมายด้านความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2578 ยกตัวอย่างเช่น ในเดือนพฤษภาคม 2565 บริษัทได้เปิดตัวโซลูชัน “CQ” – “Circular Intelligence” ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ที่ชูเด่นด้านโซลูชันหมุนเวียนในกลุ่มผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น นั่นหมายความว่า โคเวสโตรจะเน้นไปที่การใช้วัตถุดิบทางเลือกอย่างน้อย 25 % มาผลิตสินค้าในอนาคต ผลิตภัณฑ์แรกของโซลูชัน “CQ”คือ Desmodur ® CQ สำหรับผลิตโพลียูรีเทนซึ่งใช้ในเฟอร์นิเจอร์หุ้มเบาะ ฟูกนอน ฉนวนกันความร้อน  ฯลฯ

ในเดือนมิถุนายน 2565 โคเวสโตรยังได้เปิดตัว ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานลม (Wind Technology Center) แห่งใหม่ในเมืองเลเวอร์คูเซิน ในเยอรมนี ซึ่งเป็นที่ที่บริษัทกำลังดำเนินการวิจัย ศึกษาเกี่ยวกับตัวเลือกวัสดุเพื่อการผลิตพลังงานลมอย่างยั่งยืน โดยเน้นการผลิตใบพัดโรเตอร์ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและคุ้มทุนมากขึ้น รวมถึงการยกระดับคุณภาพของใบพัดให้เหมาะสมที่สุด ด้วยวิธีนี้ เราจะสามารถเพิ่มอายุการใช้งานของใบพัด รวมถึงสามารถสกัดพลังงานได้มากขึ้นด้วย  เพื่อผลักดันให้เกิดการขยายตัวของพลังงานทางเลือก

การเติบโตของยอดขายสำหรับทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจ

ยอดขายกลุ่มวัสดุประสิทธิภาพสูง (Performance Materials)ในไตรมาสสองของปี 2565 เพิ่มขึ้น 25.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 2.5 พันล้านยูโร (ปีที่แล้วอยู่ที่  2พันล้านยูโร) โดยปัจจัยหลักมาจากระดับราคาขายที่สูงขึ้น ปัญหาที่เป็นอุปสรรคด้านลอจิสติกส์ที่เกิดจากการล็อกดาวน์เนื่องจากการระบาดใหญ่ในจีนเป็นข้อจำกัดในการการเติบโต  โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก  โดย EBITDA ในกลุ่มธุรกิจวัสดุประสิทธิภาพสูง ลดลงร้อยละ 43  มาอยู่ที่ 367 ล้านยูโร (ปีที่แล้วอยู่ที่ 644 ล้านยูโร) สาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรที่ลดลง เงินสดจากการดำเนินงานหลังหักเงินลงทุนลดลงเหลือ –37 ล้านยูโร (จาก 373 ล้านยูโรของปีก่อน) โดยสาเหตุหลักมาจาก EBITDA ที่ลดลงและการเพิ่มเงินทุนเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียน

กลุ่มธุรกิจกลุ่มโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์เฉพาะด้าน (Solutions & Specialties) มียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ  11 เป็น 2.2 พันล้านยูโรในไตรมาสที่สองของปี 2565 (ปีที่แล้วอยู่ที่ 2 พันล้านยูโร) การเพิ่มขึ้นของระดับราคาขายและผลจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ช่วยหนุนยอดขาย ในขณะที่ EBITDA ของกล่มธุรกิจตกลงเหลือ 213 ล้านยูโรหรือร้อยละ  10.1  เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองของปีที่ผ่านมา (ปีที่แล้วอยู่ที่ 237 ล้านยูโร) สาเหตุหลักมาจากปริมาณการขายและอัตรากำไรที่ลดลง เงินสดจากการดำเนินงานหลังหักเงินลงทุนของกลุ่มโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์เฉพาะด้านลดลงเหลือ –139 ล้านยูโร (ปีที่แล้วอยู่ที่ 29 ล้านยูโร) รวมถึงจากการเพิ่มเงินทุนที่จะใช้เป็นทุนหมุนเวียน

ระดับราคาขายที่สูงขึ้นส่งผลต่อครึ่งปีแรกของปี 2565

ยอดขายของกลุ่มบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.2  ไปเป็น 9.4 พันล้านยูโร (ปีที่แล้วอยู่ที่ 7.3 พันล้านยูโร) ซึ่งเป็นเพราะระดับราคาขายที่สูงขึ้น การปรับตัวอัตราแลกเปลี่ยน และการเปลี่ยนแปลงพอร์ตธุรกิจจากการเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจ Resins & Functional Materials (RFM) จาก DSM เนื่องจากราคาวัตถุดิบและพลังงานที่สูงขึ้น ซึ่งได้รับการชดเชยบางส่วนจากระดับราคาขายที่เพิ่มขึ้น EBITDA ของกลุ่มในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ลดลงร้อยละ 13.3 ไปเป็น 1.4 พันล้านยูโร (ปีที่แล้วอยู่ที่ 1.6 พันล้านยูโร) รายได้สุทธิในครึ่งแรกของปี 2565 อยู่ที่ 615 ล้านยูโร (ปีที่แล้วอยู่ที่ 842 ล้านยูโร) ในขณะที่ FOCF ลดลงเหลือ -445 ล้านยูโร (ปีที่แล้วอยู่ที่ 692 ล้านยูโร)


หมายเหตุถึงบรรณาธิการ:


ข้อความแม่แบบ

เกี่ยวกับโคเวสโตร:

โคเวสโตรคือหนึ่งในผู้ผลิตวัสดุโพลิเมอร์และส่วนประกอบทางโพลิเมอร์คุณภาพสูงชั้นนำของโลก ด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ กระบวนการ และวิธีการ บริษัทช่วยส่งเสริมความยั่งยืนและคุณภาพชีวิตในหลายแง่มุม โคเวสโตร ให้บริการลูกค้าทั่วโลกในอุตสาหกรรมหลัก เช่น การเดินทางและการขนส่ง อาคารและที่อยู่อาศัย ตลอดจนอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ โพลิเมอร์จากโคเวสโตร ยังใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ กีฬาและสันทนาการ เครื่องสำอางและสุขภาพ ตลอดจนในอุตสาหกรรมเคมีด้วย

เรามุ่งมั่นในการก้าวไปสู่การหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ และตั้งเป้าสู่ความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ ภายใน ค.ศ. 2035 (scope 1 และ scope 2) และสร้างยอดขายได้ประมาณ 15.9 พันล้านยูโรในปีงบประมาณ 2564 โดยบริษัทมีโรงงานผลิต 50 แห่งทั่วโลกและมีพนักงานประมาณ 17,900 คน (คำนวณจากจำนวนพนักงานประจำ)

ข้อความที่บ่งชี้ถึงอนาคต

 ข่าวประชาสัมพันธ์ชิ้นนี้อาจมีข้อความที่บ่งชี้ถึงอนาคต โดยใช้ข้อสันนิษฐานและการคาดการณ์ของโคเวสโตร เอจี เป็นพื้นฐาน ปัจจัยด้านความเสี่ยงที่คาดการณ์ได้และที่คาดการณ์ไม่ได้ ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่น ๆ อาจส่งผลต่อข้อมูลที่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งด้านผลประกอบการจริง สถานการณ์ทางการเงิน ผลการดำเนินงานและการพัฒนาของบริษัทในอนาคต โดยปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ หมายรวมถึงปัจจัยที่อยู่ในรายงานที่โคเวสโตรเผยแพร่ ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูลได้บนเว็บไซต์โคเวสโตร www.covestro.com ทั้งนี้ โคเวสโตรจะไม่ขอรับผิดชอบในการแก้ไขข้อความบ่งชี้ถึงอนาคตต่าง ๆ หรือการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ตรงตามสถานการณ์หรือการพัฒนาในอนาคต