โคเวสโตร, พื้นผิว, สารเคลือบ

พื้นผิวที่ทันสมัยสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไฮเทค

ตัวอย่าง : กระจกพกพาอิเล็กทรอนิกส์ที่รองรับ WiFi

กระจกเงาพกพาอัจฉริยะ (Smart Mirror pocket) จาก ไมน์เทคโนโลยี (MINE Technologies) ผู้ผลิตจากประเทศจีน ซึ่งฝาครอบกระจกเงาเคลือบด้วยสารเคลือบนวลสูตรน้ำ (water-based soft-touch coating) จาก อัคโซโนเบล (AkzoNobel) ให้ความรู้สึกเนียนนุ่มและเอฟเฟกต์ด้านอันหรูหรา ซึ่งการเคลือบนี้เป็นการพัฒนาร่วมกับ โคเวสโตร (Covestro)

ในตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่กำลังเติบโต ผู้ผลิตกำลังมองหาโซลูชันตอบโจทย์ทั้งสุนทรียภาพและฟัง์ชั่นในการใช้งานใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ที่ทันสมัยและสีสันสดใสอีกต่อไป โดยพบว่าผู้บริโภคสนใจในผลิตภัณฑ์ที่มีความนุ่มละมุนด้วยพื้นผิวสัมผัสด้าน ไม่เงา แต่คงความหรูหรา และเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าวนั้น โคเวสโตร (Covestro) ได้ทำงานร่วมกับ อัคโซโนเบล (AkzoNobel) บริษัทผู้ผลิตสีและสารเคลือบ เพื่อพัฒนาระบบเคลือบสีด้วยสูตรน้ำรูปแบบใหม่ ด้วยการปรับปรุงผิวสัมผัสให้ดูด้านขึ้น อีกทั้งยังตอบสนองความต้องการในด้านคุณภาพและความทนทานของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน นอกจากนี้ โคเวสโตร (Covestro) ได้ร่วมมือกับพันธมิตรเจ้าอื่น ๆ เพื่อประยุกต์ใช้นวัตกรรมด้านวัตถุดิบในผลิตภัณฑ์และรองรับความต้องการของแบรนด์สมัยใหม่ด้วย

ดร. Miya Ma ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอุตสาหกรรมและพัฒนาธุรกิจด้านสารเคลือบ กาว และผลิตภัณฑ์พิเศษสำหรับแอปพลิเคชั่น 5G ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของโคเวสโตร (Covestro) กล่าวว่า “แม้การเปิดตัวเครือข่าย 5G จะยกระดับอุตสาหกรรม แต่ได้เพิ่มคาดหวังของผู้บริโภคต่อประสิทธิภาพของอุปกรณ์ให้สูงขึ้นไปด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ โคเวสโตร (Covestro) ทำงานร่วมกับพันธมิตรและลูกค้าเพื่อพัฒนาโซลูชั่นวัสดุที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อนำสินค้าที่ทันสมัยออกสู่ตลาดให้เร็วยิ่งขึ้น”

อุปกรณ์เสริมอัจฉริยะ

กระจกเงาจะสว่างขึ้นเมื่อคุณสัมผัสที่ขอบ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย วายฟาย (WiFi) และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย

ตัวอย่างหนึ่งในปัจจุบันคือ การทำงานของกระจกเงาอัจฉริยะ (Smart Mirror) จากผู้ผลิตสัญชาติจีนอย่าง ไมน์เทคโนโลยี (MINE Technologies) ที่ฝาครอบกระจกเคลือบด้วยสารเคลือบนวลสูตรน้ำของ อัคโซโนเบล (AkzoNobel) ซึ่งให้ความรู้สึกเนียนนุ่มและเอฟเฟกต์ด้านที่ดูหรูหรา อีกทั้งมีความทนทานต่อการขีดข่วนสูง โดยวัตุดิบที่ใช้เป็น โพลียูรีเทน (polyurethane) จาก Bayhydrol® และ Bayhydur® ของ โคเวสโตร (Covestro) นอกจากนี้ ด้วยสารเคลือบสูตรน้ำ (water-based coating) ดังกล่าว ยังมีลักษณะเฉพาะคือการปล่อยสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (volatile organic compounds : VOCs) ในระดับต่ำ ซึ่งมีส่วนช่วยให้กระบวนการผลิตมีความยั่งยืนมากขึ้น

กระจกเงาอัจฉริยะ (Smart Mirror) ยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ เมื่อคุณสัมผัสที่ขอบมันจะเริ่มส่องแสงและสามารถปรับความสว่างได้ด้วยการปัดนิ้ว อีกทั้ง ยังสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย WiFi และรองรับการชาร์จแบบไร้สายได้อีกด้วย นอกจากนี้ กระจกเงาอัจฉริยะ (Smart Mirror) ยังได้รับรางวัล “iF Design Award” และ “International Design Excellence Award (IDEA)” ในปี 2018 อีกด้วย

โซลูชันวัสดุอเนกประสงค์

ด้วยโครงการนำร่องนี้ โคเวสโตร (Covestro) กำลังวางตำแหน่งตัวเองในตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่กำลังเติบโต ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าว โคเวสโตร (Covestro) กำลังสนับสนุนลูกค้าที่เกี่ยวข้องในกระบวนการต่างๆ ตามหลักการออกแบบ CMF (Color, Material, Finishing) นอกจากนี้ ยังสามารถผลิตพื้นผิวของผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าไหม กำมะหยี่ และวัสดุคล้ายหนัง ที่มีความด้านและเงาหลายระดับด้วยเช่นกัน

แผงด้านหลังของ กระจกเงาอัจฉะริยะ (Smart Mirror) และวงแหวนไฟส่องสว่าง ทำจากวัสดุโพลีคาร์บอเนต (polycarbonate) Makrolon® จาก โคเวสโตร (Covestro) ที่โดดเด่นด้วยความสามารถในการรองรับแรงกระแทก ทนความร้อน ทนการลุกไหม้ และมีความโปร่งแสง นอกจากนี้ โคเวสโตร (Covestro) ยังนำเสนอแนวทางการรีไซเคิลหลังจากหมดอายุการใช้งานแล้ว โดยวัสดุโพลีคาร์บอเนต (polycarbonate) สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน
รวมไปถึงกระเป๋าของกระจกเงาอัจฉริยะ (Smart Mirror) ที่ผลิตโดยบริษัท Huafon Microfibre จาก เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ที่เป็นหนังเทียมจากไมโครไฟเบอร์ ซึ่งผลิตด้วยวัตถุดิบโพลียูรีเทน (polyurethane) ภายใต้แบรนด์ Desmodur® จาก โคเวสโตร (Covestro) ด้วยเช่นกัน

- ของเสียจากการผลิตกลายเป็นวัตถุดิบที่มีค่า

- สามารถแปรรูปซ้ำในระดับอุตสาหกรรมได้

- มีส่วนร่วมในความยั่งยืนและการอนุรักษ์ทรัพยากรมากขึ้น

คอมโพสิตโพลีคาร์บอเนตแบบรีไซเคิลถูกผสมกับโพลีคาร์บอเนตใหม่ – เม็ดสีฟ้าอ่อน – เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์พลาสติกชนิดใหม่ (เม็ดสีดำด้านหน้า) ซึ่งผ่านการทดสอบก่อนออกสู่ตลาด ตัวอย่างทดสอบสีดำนั้น มีการวัดคุณสมบัติทางกล เช่น แรงดึงและแรงดัดงอ ซึ่งให้ผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์นี้

แบรนด์ Maezio® ซึ่งเป็นคอมโพสิตโพลีคาร์บอเนตเสริมแรงด้วยเส้นใยแบบต่อเนื่อง (CFRTPs) ที่พัฒนาโดย โคเวสโตร (Covestro) มีความโดดเด่นด้วยน้ำหนักที่เบามาก อีกทั้งความแข็งแรงสูงและมีความยืดหยุ่นในการออกแบบ ซึ่งหมายความว่า ของเสียที่เกิดขึ้นระหว่างการผลิตคอมโพสิตจะกลายเป็นวัตถุดิบที่มีคุณค่าเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวัสดุเหล่านี้ประกอบด้วยวัสดุที่แตกต่างกัน ซึ่งไม่สามารถแยกออกจากกันได้อย่างง่ายดาย การรีไซเคิลวัสดุผสมจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก ซึ่ง โคเวสโตร กำลังร่วมมือกับ carboNXT® ผู้เชี่ยวชาญด้านการรีไซเคิลในเรื่องดังกล่าวนี้ โดยได้พัฒนากระบวนการที่ทำให้ของเสียถูกแปรรูปได้ในระดับอุตสาหกรรม

“เรารู้สึกตื่นเต้นมากเกี่ยวกับการแก้ปัญหาร่วมกันนี้ เนื่องจากเราไม่สามารถดำเนินการกับวัสดุเองได้ด้วยเหตุผลทางเทคนิคบางประการ” Lisa Ketelsen หัวหน้าฝ่ายเทอร์โมพลาสติกคอมโพสิต จาก โคเวสโตร อธิบาย “โดยการรีไซเคิลตามประเภทที่โรงงานของพันธมิตรเรา วัตถุดิบสามารถเปลี่ยนกลับไปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและมีคุณสมบัติที่ดีพอ ๆ กับวัสดุบริสุทธิ์ ทำให้การรีไซเคิลวัสดุสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ ด้วยวิธีนี้ ได้ทำให้เราประหยัดทรัพยากรและสนับสนุนการมุ่งไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy)”

“บริษัทของเรามีประสบการณ์หลายปี ในการรีไซเคิลเทอร์โมพลาสติกเสริมคาร์บอนไฟเบอร์ และมีเทคโนโลยีโรงงานที่จำเป็นในการแปรรูปของเสียดังกล่าว เราจึงเป็นตัวเลือกสำหรับงานนี้” Tim Rademacker ผู้จัดการทั่วไปของ Mitsubishi Chemical Advanced Materials และผู้รับผิดชอบธุรกิจรีไซเคิลคาร์บอนไฟเบอร์ กล่าว “จากของเสียที่ผ่านการแปรรูป เราผลิตสารประกอบใหม่คุณภาพสูงของโพลีคาร์บอเนตเสริมคาร์บอนไฟเบอร์สำหรับ โคเวสโตร (Covestro) ที่ CarboNXT®”

ผลิตภัณฑ์รีไซเคิลดังกล่าวมีความต้องการสูง เพราะเป็นวัตถุดิบที่มีค่า แต่เนื่องจากลูกค้าภาคอุตสาหกรรมและผู้บริโภคกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะนี้ โครงการจะได้รับการพัฒนาต่อไปเพื่อให้ตอบสนองตลาด โดย โคเวสโตร, Mitsubishi Chemical Advanced Materials และอาจรวมถึงพันธมิตรรายอื่น ๆ โดยเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ระดับโลก ซึ่ง โคเวสโตร มุ่งเน้นด้านพลังงานทั้งหมดบนหลักแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน

เกี่ยวกับโคเวสโตร

โคเวสโตรเป็นผู้ผลิตวัสดุโพลิเมอร์ชั้นนำระดับโลก มียอดขายในปี 2563 ถึง 10.7 พันล้านยูโร ธุรกิจของโคเวสโตรให้ความสำคัญกับการผลิตวัสดุโพลิเมอร์ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงและการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน สำหรับการดำเนินงานดังกล่าว โคเวสโตรมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ต่อหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน อุตสาหกรรมหลักที่ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของโคเวสโตรคืออุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ในครัวเรือน นอกจากนี้ ยังมีอุตสาหกรรมด้านกีฬาและสันทนาการ เครื่องสำอาง สุขภาพ รวมถึงอุตสาหกรรมเคมีด้วยเช่นกัน โดยโคเวสโตรมีศูนย์การผลิตอยู่ 33 แห่งทั่วโลก และมีพนักงานประจำและเทียบเท่า ประมาณ 16,500 คน (ข้อมูล ณ ปลายปี 2563)

Notes:
สำหรับข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับโคเวสโตร กรุณาเข้าไปที่เว็บไซต์ www.covestro.com
กดติดตามเราได้ที่ Facebook: Covestro Thailand

ข้อความที่บ่งชี้ถึงอนาคต
ข่าวประชาสัมพันธ์ชิ้นนี้อาจมีข้อความที่บ่งชี้ถึงอนาคต โดยใช้ข้อสันนิษฐานและการคาดการณ์ของโคเวสโตร เอจี เป็นพื้นฐาน ปัจจัยด้านความเสี่ยงที่คาดการณ์ได้และที่คาดการณ์ไม่ได้ ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่นๆ อาจส่งผลต่อข้อมูลที่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งด้านผลประกอบการจริง สถานการณ์ทางการเงิน ผลการดำเนินงานและการพัฒนาของบริษัทในอนาคต โดยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ หมายรวมถึงปัจจัยที่อยู่ในรายงานสาธารณะของโคเวสโตร ซึ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ที่เว็บไซต์โคเวสโตร www.covestro.com ทั้งนี้ โคเวสโตรจะไม่ขอรับผิดชอบในการอัพเดทข้อความบ่งชี้ถึงอนาคตต่างๆ หรือการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ตรงตามสถานการณ์หรือการพัฒนาในอนาคต